Aftershock: Three Months Later

         "Life isn't fair- never has been and never will be" 

                                                                   From My Legendary Girlfriend (Mike Gayle)

Back here again in UA, Tuscaloosa, three days ago.

กลับมาถึงที่มหาวิทยาลัยแล้วเมื่อวันที่ 7 ตอนเที่ยงคืน ตอนนี้ย้ายกลับมาอยู่หอแล้ว ห้องเดิม จัดการธุระที่สำคัญๆเสร็จเรียบร้อย คงพักอีกสักวันเพราะยังมีอาการ jetlag ปรับเวลาไม่ได้อยู่ คืนนี้ก็ตื่นมาตอนเที่ยงคืน ซึ่งไทยก็คือเที่ยงวัน

จริงๆกลับไปบ้านสามเดือน ก็ได้ไปทำอะไรเยอะนะ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านทำใจ เวลาส่วนใหญ่ก็อยู่แต่ในห้อง เล่นเน็ท แล้วก็กินๆ จนน้ำหนักขึ้นเยอะมากที่สุดที่เคยขึ้น บ้าซื้อ cd แผ่นเสียง แอมป์หลอด ลำโพงอีกสองคู่ แล้วสุดท้ายก็ซื้อ ทีวี lcd กับ เครื่องเล่น bluray ซะที แต่ก็ได้ขายเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่า กับแผ่นเสียงบางส่วน ออกด้วยให้กับทันตแพทย์เหวยกับ อาจารย์โย 

ที่ดีที่สุด ก็คือได้มีโอกาสไปเจอเพื่อน ลูกศิษย์หลายคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน บางคนก็เป็นสิบ ยี่สิบปี ก็มี ได้มีโอกาสไปจังหวัดอื่นๆบ้างนอกจากไปกรุงเทพฯตามปกติ - อุดร อุบล โคราช ขอนแก่น มหาสารคาม ชลบุรี ส่วนช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็ไปสอนพิเศษที่ บุรีรัมย์ กับ สตึก ได้มีโอกาสไปสั่งลากับโรงหนังลิโด้ สองรอบ กับ สกาล่าอีกหนึ่งรอบ ต่อด้วยไปดูคอนเสิร์ตที่ธรรมศาสตร์ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน กับที่  silverlake พัทยาตอนเดือนกรกฎาคม เดี๋ยวจะทยอยเขียนกับลงรูปให้ดูครับ

ยังงั้นวันนี้มาเริ่มเล่าเรื่องการเดินทางกลับก่อนแล้วกัน ครั้งนี้เดินทางออกจากบ้านช่วงตีสี่ จากบ้านแม่กับน้ามาส่งที่ บขส. โคราช แล้วก็ต่อรถทัวร์เข้ากรุงเทพ ถึงกรุงเทพเกือบ 11 โมง เพื่อนสนิท (แกก็จะไปต่างประเทศแต่งงานเดือนนี้แหละ - สวนทางกันตลอดชีวิต 555+) มารับ ไปดูหนัง กินข้าว แล้ว shopping นิดหน่อยที่ central ลาดพร้าว ออกเดินทางไปสนามบินช่วงสี่โมงเย็น ไปถึงช่วง 5 โมง รอให้โต้ยมารับออกไปกินข้าวแถวลาดกระบัง แล้วก็กลับมาสนามบินอีกรอบ มีโต้ย ฐา (คู่แฝด 555+) ชาวเลย์ โบว์ เอื้อ แล้วก็นกฮูก มาส่ง (ขอบใจทุกๆคนที่มาส่งครับ)


แลกเงิน check in แล้วก็นั่งคุยกันจนถึง สามทุ่ม ก็เข้าไปข้างในรอขึ้นเครื่อง เครื่องออก 23.45 ถึงเกาหลี เจ็ดโมงเช้า ตอนแรกก็กะว่าคงได้ห้องพักฟรีเหมือนตอนกลับจากอเมริกา แต่กลายเป็นว่ารอเครื่อง 11 ชั่วโมงไม่ได้ห้องพักฟรี ก็เลยต้องอยู่ต่อในสนามบินอีก จนขึ้นเครื่อง ช่วงแรกก็เดินดูของตาม duty free เล่น แล้วก็ไปหาที่นอนตรง gate 24 ที่ต้องต่อเครื่อง งีบไปช่วงหนึ่งแล้วก็ตื่นมาเล่นเน็ท ข้อดีของสนามบินอินชอนคือ มี free wifi เล่น เล่นจน battery ของ laptop ตัวเองหมด กะว่าจะ charge เล่นต่อแต่ไฟไม่เข้า ก็เลยกลับไปเดินเล่นอีกรอบ แล้วก็กลับมาเล่นเน็ทฟรี ตรง Naver Square ที่สนามบินมีไว้บริการ กลับไปนั่งๆนอนอีกหลายรอบ จนได้ขึ้นเครื่องตอน 5 โมง 30 นาที ก่อนขึ้นเครื่องก็มีมีพนักงานมาตรวจกระเป๋าอีกรอบ จะเข้าอเมริกา มันเรื่องมากมาก เครื่องออกจาก Seoul ตอนหกโมงนิดๆ ช้าไปกว่ายี่สิบนาที รอผู้โดยสารที่มาช้า ครั้งนี้ได้ที่นั่งติดกับทางเดินก็เลยสะดวกมากหน่อย ในการเข้าออก



เดินทาง 13 ชั่วโมงกว่า ถึงสนามบิน Atlanta หนึ่งทุ่มกว่า ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง แล้วก็เกือบมีปัญหา จะถูกกักตัวให้เข้าประเทศช้า แล้วยึด visa เนื่องจาก มี I-94 ติดอยู่ใน passport เก่า ทั้งสองครั้งที่เข้าอเมริกา (ตอนนี้ต้องถือ passport สองฉบับ เนื่องจาก อันเก่ามี visa ) เจ้าหน้าที่อธิบายให้ฟังว่าตอนออกจากอเมริกาจะต้องดึงออก (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใครจะเป็นคนเอาออก พนักงานสายการบิน หรือเจ้าหน้าที่) พร้อมบอกถึงโทษโดยอ้างอิงจากข้างหลัง I-94 กลัวมีปัญหามาก ก็เลยพยายามอธิบายว่าไม่รู้จริง ขอโทษ แล้วก็พยายามบอกว่าครั้งหน้าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก จะรอบคอบกว่านี้ ตอนนี้รู้แล้ว สุดท้ายแกก็อ่อนลง เช็คข้อมูลการเข้าออกประเทศอีกครั้ง แล้วก็ปล่อยให้เข้าประเทศ ก็ถือว่ายังโชคดีอยู่ เสียวมาก 555+ รับกระเป๋าแล้วก็ผ่านตรง declare บอกว่ามี food แต่เป็น instant noodles seasoning กับ snacks มันก็เลยให้ผ่านไปเลย (แต่คิดว่ายังไงมันก็คงเปิดกระเป๋าตรวจอยู่ดีตอนผ่านเครื่อง scan เมื่อไป drop กระเป๋าเพื่อต่อเครื่อง ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด เพราะมีป้ายว่ามันตรวจกระเป๋าตอนเปิดออกเมื่อถึงที่พัก แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เอาเข้าได้ทุกอย่าง ปีนี้มีแต่ของกิน) นั่งรถไฟใต้ดินไปยัง terminal B เพื่อรอต่อเครื่องบินในสนามบิน Atlanta อีกสี่ชั่วโมง เครื่องออก ห้าทุ่ม หนึ่งนาที ไปถึง birmingham ตอนสี่ทุ่ม 45 ไปรอกระเป๋า กว่าจะได้ออกจากสนามบินก็ ห้าทุ่ม ( ไม่ต้องสงสัย เนื่องจากเวลาที่เมืองนี้ช้ากว่าที่ Atlanta 1 ชั่วโมงครับ) ออกจากสนามบินไปหารถที่มารับอยู่บนชั้นสอง คนขับรถที่มารับเป็นคนผิวดำ ยกป้าย Cam Nochaisong อย่างฮา ได้ชื่อใหม่ รถที่มารับไม่ใช่ limousine เหมือนปีที่แล้ว แต่ก็ดูหรูดี ประมาณ Fortuner แต่ดูดีมีสกุลกว่า ก็สมกับราคา 115 ดอลลาร์  เดินทางชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง apartment เพื่อน เที่ยงคืนพอดี เปิดกระเป๋า เช็คของ อาบน้ำ เล่นเน็ทต่อเกือบชั่วโมง แล้วก็นอน

เช้าวันต่อมาก็ติดต่อผู้จัดการหอพัก เพื่อขอ check in เข้าหอ แล้วก็ขอให้น้องแกช่วยไปขนของที่ apartment เพื่อนหนึ่งรอบ (ค่าหอขึ้นราคาจาก 2350 ต่อเทอม เป็น 2800 โหดอ่ะ) ไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัย แล้วก็ส่งเอกสารไปรายงานตัวที่ สำนักงานผู้ดูแลนักเรียนไทยในอเมริกา (สนร.) Washington แล้วก็ส่งเอกสารเพื่อขอยกเว้นการทำประกันสุขภาพกับมหาวิทยาลัย เมื่อวานก็คุยเรื่องลงทะเบียนที่มีปัญหาเรียบร้อย เหลือแต่เรื่อง plan of study ซึ่งจะคุยอีกรอบวันที่ 22 เปิดเรียนวันแรกก็วันที่ 22 ครับ เทอมนี้มีเรียน วันอังคาร พุธ แล้วก็ศุกร์ เสาร์ (วันศุกร์ แค่เดือนละครั้ง) เนื่องจากทุกวิชาที่ลงเป็นวิชาพื้นฐานทั้งหมด งานเยอะมาก และเรียนก็คงหนัก แต่ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการมีวินัยในตนเอง ในการทำวิจัยปีหน้า






                                            


Comments

  1. เพื่อนบอกว่าอยากได้รูปใหญ่ อิอิ
    จากนี้ไปขอให้มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น

    ReplyDelete
  2. เดี๋ยวส่งไปให้ทางเมลล์ โบ

    ReplyDelete
  3. มีแต่คนอิจฉา อยากมาส่งอาจารย์ทั้งนั้น
    เฮ้อ...ปีสี่แล้วมันน่าเบื่อมากเลย
    ใกล้จะถึงเวลาต้องเลือก ไม่รู้จะไปไหนดี
    จะเรียนหรือทำงาน คิดไม่ตกเลย --"
    หวังว่าใจและร่างกายอาจารย์จะแข็งแรง

    ReplyDelete
  4. สบายดีครับ ช่วงนี้ออกกำลังกาย กับอ่านการการ์ตูน

    น้ำหนักลดแล้วสองกิโล รอหนังสือเรียนที่สั่งไป 6 เล่ม

    จะได้เริ่มอ่าน

    แต่มีปัญหาเรื่องปรับเวลา ยังไม่ได้ ยังนอนเวลาไทย

    ReplyDelete
  5. นอนๆ ง่วงก็นอนเลย ครับฮาฮา

    ผมกำลังเครียดเรื่องทำเล่มครับ

    เหนื่อยใจ แก้หาผลลัพธ์ ไม่ได้ซักที

    หยก

    ReplyDelete
  6. ชาวเลย์ สู้ๆ

    อาดาจิออกการ์ตูนใหม่แล้วนะ ตอนนี้มี 4 ตอนแล้วเรื่อง Mix เหตุการณ์เกิดในโรงเรียนเมย์เซ 26 ปีต่อมา เรื่องของพี่น้องคู่ใหม่ น่าจะยาว อ่านแล้วชอบมากๆ แต่ลงในนิตยสารรายเดือน คงช้าน่าดู

    ReplyDelete
  7. ZOO สัปดาห์ รวมGND

    สวยดีคับ เดวจัดให้

    อิอิ

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular Posts